เอ็มมี รอสซัม (Emmy Rossum) หรือชื่อจริงของเธอคือ เอมมานูเอลล์ เกรย์ รอสซัม (Emmanuelle Grey Rossum) เกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน นักร้อง นักแต่งเพลง และ ผู้กำกับ เธอมีผลงานเด่นคือนางเอกภาพยนตร์เรื่อง วิกฤติวันสิ้นโลก, Poseidon (2006), The Phantom of the Opera และผลงานที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนเรื่อง ดราก้อนบอล ฉบับภาพยนตร์ ที่เธอแสดงเป็น บลูม่า
เอ็มมี เกิดที่นครนิวยอร์ก โดยมีแม่ชื่อ เชริล (Cheryl) ที่ทำงานเป็นพนักงานธนาคาร โดยแม่ของเธอเลี้ยงเอ็มมีมาโดยลำพังโดยไร้เงาพ่อของเธอ (ซึ่งเธอก็ได้นำไปแต่งเป็นเพลง โดยใช้ชื่อว่า Anymore ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายในชุด Inside Out) โดยเธอก็ฉายแววครั้งแรก หลังจากที่ร้องเพลง Happy Birthday ได้ถึง 12 คีย์ จึงได้ถูกดึงไปร่วมวง Metropolitan Opera Children's Chorus ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ โดยที่เมื่อเธออายุได้ 12 ปีก็ได้ทิ้งวงไป เพราะตัวเธอใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นคอรัสเด็กได้แล้ว เธอจึงได้ชิมลางงานแสดงครั้งแรก โดยเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ Law & Order และเธอก็ได้เข้าชิงดาวรุ่งยอดเยี่ยมในปี 2542 จากหนังทางทีวีเรื่อง Genius
เอมมี ได้เล่นหนังจอใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2543 เรื่อง Songcatcher โดยเปิดตัวที่ เทศกาลหนังซันแดนซ์ และเธอก็ได้รับเสนอชื่อเข้าชิง Independent Spirit Award สาขาดาวรุ่งยอดเยี่ยม โดยในต่อมา เธอก็ได้แสดงในหนังดรามาชิงรางวัลของ คลินต์ อีสต์วูด เรื่อง Mystic River ในปี 2546 โดยเล่นเป็นลูกสาวที่ถูกฆาตกรรมของ ฌอน เพนน์ จนมาโด่งดังจากเรื่อง The Day After Tomorrow ที่เล่นกับ เดนนิส เควด และ เจค จิลเลนฮอลเมื่อปี 2547 แต่ก็ยังไม่เท่ากับบท คริสทีน ที่เธอได้แสดงทั้งความสามารถในการร้องเพลงกับการแสดงไปพร้อมๆ กัน ในเรื่อง The Phantom of the Opera ในปีเดียวกัน
หลังจากเว้นงานแสดงจอเงินมา 2 ปี ในปี 2549 โดยรับงานหนังรีเมคเรื่อง Poseidon โดยเล่นกับ เคิร์ต รัสเซลล์ และเว้นไป 3 ปี เธอก็เล่นเรื่อง DragonBall Evolution โดยมีหนังสะท้อนปัญหาวัยรุ่น อย่าง Dare ออกมาในปีเดียวกัน โดยเป็นหนังที่ได้ไปเปิดตัวในเทศกาลหนังซันแดนซ์
ผลงานปัจจุบันของเธอ คือ ซีรีส์เรื่อง Shameless ฉายที่ช่อง Showtime และในปี 2556 นี้ เธอก็มีผลงานทางจอเงินเรื่องใหม่ คือ Beautiful Creatures (แม่มดแคสเตอร์)
นอกจากนี้ เอ็มมียังมีผลงานเพลงอยู่ด้วย ชุดแรกชื่อ Inside Out วางแผงเมื่อปี 2007 และยัง
มี EP (มินิอัลบั้ม) เป็นเพลงคริสต์มาส ออกช่วงท้ายปีเดียวกัน ชื่อ Carol of the Bells ส่วนอัลบั้มที่ 2 ชื่อว่า Sentimental Journey ก็วางแผงในปี 2556 โดยเป็นการเรียบเรียงเพลงเก่ามาร้องใหม่ในรูปแบบของเธอเอง